วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

นบีดาวูด

ดาวิดหรือนบีดาวูด กษัตริย์ชาวอิสราเอล ที่มุสลิมนับถือเป็นศาสนาทูตของอัลเลาะฮ์


 สุสานของนบีดาวูด ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของฝ่ายอิสราเอล
ต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของท่านนบี ดาวูด ตามทัศนะของมุสลิมซึ่งมีภาพลักษณ์แตกต่างกับดาวิดในพระคัมภีร์เดิมอยู่พอดู ราวกับเป็นคนละคนเชียวแหละ
 นั่นแหละคือเหตุผลทีฉันย้ำนักย้ำหนาว่า  อย่าเอาบุคคลในสองคัมภีร์มาปนกัน เพราะอาจทำให้เกิดการสับสนในด้านบุคลิกภาพได้  นบีดาวูดที่อัลเลาะฮ์ทรงมีโองการในอัลกุรานนั้นมิได้เน้นในเชิงประวัติศาสตร์ แต่เน้นในด้านอุทาหรณ์ความยึดมั่นในศรัทธา และการเทิดเอกภาพของพระเจ้า  อันเป็นเป้าหมายสูงสุดนับตั้งแต่ท่านนบีอาดัม
ฉันคิดว่า พระคัมภีร์เดิมและอัลกุรอาน เริ่มมีความแตกต่างกันในเรื่องเนื้อหาการเล่ามากขึ้น  นับตั้งแต่ยุคสมัยของท่านนบีดาวูดหรือ กษัตริย์ดาวิด นี่แหละ อันเป็นยุคที่ชาวอิสราเอล ตั้งประเทศยูดาห์ เป็นปึกแผ่นแล้ว ถึงแม้จะยังมีปัญหาภายในอยู่บ้าง
 พระคัมภีร์เดิมของชาวยิวและคริสต์นั้นกล่าวถึงดาวิดอย่างละเอียดตั้งแต่เป็นเด็กจนถึงการเข้าสู่การเป็นกษัตริย์ โดยเน้นไปในเชิง อัตตชีวประวัติอยู่หลายบท ซึ่งกล่าวถึงพฤติกรรมในชีวิตของท่านทั้งในเชิงชู้สาว การเมืองการปกครอง การสงคราม เป็นหลัก
แต่คัมภีร์อัลกุรอานของอิสลามนั้น กล่าวถึงท่าน นบีดาวูด(ดาวิด)ในเชิงคุณธรรม และการศรัทธาต่อพระเจ้าในฐานะ นบี(ศาสนทูตของพระเจ้า)และเป็นกษัตริย์ของชาวอิสราออีล(อิสราเอล) ผู้นอบน้อมถ่อมตนต่อพระเจ้าอย่างดียิ่งแม้จะมีอำนาจแห่งกษัตริย์ และกล่าวอย่างรวบรัด
โองการที่เกี่ยวกับท่านนบีดาวูดมิได้อยู่รวมเรียงกัน แต่อยู่กระจัดกระจายไปในบทต่างๆเช่นเดียวกับท่านนบีหลายท่านดังที่ได้เคยยกมากล่าวแล้ว  ดังนั้นฉันจึงขอยกคำธิบายของนักวิชากการอิสลามมาขยายเหตุการณ์โดยรอบเพื่อการเข้าใจอัลกุรอานอย่างตรงเป้าหมาย
กิติศัพท์ของดาวูดหลังฆ่า ญาลูต(โกลิอัท)

 ด้วยความกล้าหาญ ศรัทธาอันแรงกล้ามั่นคงและกอบกู้เกียรติยศของเผ่าพันธุ์อิสรออีลนั้น  ทีทำให้ ดาวูดสามารถฆ่า ญาลูตผู้อธรรมลงได้  ทำให้แสงทองแห่งสันติภาพและความสงบสุขของราษฎรได้แผ่ปกคลุมบนขอบฟ้าหน้าแผ่นดินของเผ่าพันธุ์อิสรอีลกระทั่งได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นแมทัพพร้อมกับได้อภิเษกสมรสกับราชธิดาของกษัตริย์ ฏอลูต(ซาอูล)”

…….ด้วยเอกลักษณ์และพรสวรรค์อันโดดเด่นที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่ศาสดาดาวูดเป็นลักษณะพิเศษประจำตัว นั่นคือ น้ำเสียงสุดแสนจะไพเราะเพราะพริ้งเป็นยิ่งนัก  ยามที่เขาแซ่ซ้องสดุดีในพระบพิทธิคุณองค์อภิบาลด้วยน้ำเสียงอันวิจิตรพิศดาร

หลังจากที่ศาสดาดาวูด ได้ฆ่า ญาลูตแล้ว  เขาได้ปลีกตัวออกากเผ่าพันธุ์อิสรออีล  ระยะหนึ่งเพื่อไปหาความวิเวกเปล่าเปลี่ยวบนภูเขาท่ามกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาลในการประกอบพิธีกรรมนมัสการและสดุดีวิงวอนภาวนาต่อองค์อภิบาลผู้ทรงหนึ่งเดียวเท่านั้น

(นบีของอัลเลาะฮ์ ดาวูด สุลัยมาน โดยปริญญา ประหยัดทรัพย์ น.22/23)
-และโดยแน่นอน  เราได้ให้ความโปรดปรานของเราแก่ดาวูด  โอ้ภูเขาเอ๋ยจงแซ่ซ้องสดุดีพร้อมกับเรา  และนกด้วย และเราทำให้เหล็กอ่อนตัวสำหรับเขา”-

-“เจ้าจงทำเสื้อเกราะและห่วงของมันให้ได้สัดส่วน  และเจ้าจงทำความดีเถิด แท้จริงข้านั้นเห็นสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ”-

(อัลกุรอาน34/10-11)
นักอธิบายอัลกุรอานกล่าวว่า นกจะกล่าวตัสบีฮ์(สดุดี)เมื่อเขากล่าวและเมื่อเขาอ่านคัมภีร์สัตว์ทุกชนิดจะหยุดฟังการอ่านของเขา และะร้องให้เมื่อเขาร้องให้  อีกท่านหนึ่งกล่าวว่าอัลเลาะฮ์ทรงให้เหล็กอ่อนโดยไม่ใช้ไฟเผาหรือฆ้อนทุบ
-และเราได้สอนเขา(ดาวูด)ให้รู้จักการทำเสื้อเกราะสำหรับพวกเจ้า เพื่อป้องกันเจ้าจากการรบพุ่งกัน แล้วพวกเจ้าจะเป็นผู้กตัญญูรู้คุณบ้างใหม?”-

(อัลกุรอาน21/80)
-และพระผู้อภิบาลของเจ้า ทรงรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และโดยแน่นอนเราได้เลือกนบีบางคนให้ดีเด่นกว่าอีกบางคน และเราได้ให้คัมภีร์ ซะบูรแก่ดาวูด”-                                          (อัลกุรอาน17/55)
นักอธิบายอัลกุรอานให้ความหมายว่า  โดยเราคัดเลือกพวกเขาด้วยประโยชน์โดยเฉพาะ  เราได้เลือกอิบรอฮีม(อับราฮัม)เป็นมิตรของเรา  มูซา(โมเสส)ผู้พูดกับเรา  สุลัยมาน(ซาโลมอน)ผู้มีอำนาจมากมายและมูฮัมมัดเป็นผู้นำประชาชาติทั้งในอดีตและปัจจุบัน
-“เจ้า(มูฮัมมัด)จงอดทนต่อสิ่งที่พวกเขากล่าว  และจงรำลึกถึงบ่าวของเรา ดาวูดผู้ทรงพลัง  แท้จริงเขาเป็นผู้กลับตัวต่ออัลเลาะฮ์เสมอ”-

นักอธิบายกุรอานกล่าวว่า ดาวูดเป็นนบีผู้ขอบคุณ  ผู้อดทน  ผู้เข้มแข็งในศาสนา และมีร่างกายกำยำแข็งแรง  เขาถือศีลอดหนึ่งวันเว้นหนึ่งวัน  และเขายืนละหมาดในเวลาเที่ยงคืน และเขาเป็นผู้กลับเนื้อกลับตัวขอลุแก่โทษอย่างสม่ำเสมอ
-แท้จริง  เราได้ให้ภูเขาแซ่ซ้องสดุดีพร้อมกับเขา  ทั้งในยามพลบค่ำและยามรุ่งอรุณ”-

-“และ(เราได้ทำให้)นกมารวมกันทั้งหมดเพื่อเชื่อฟังเขา”-

-“และเราได้ให้อาณาจักรของเขาเข้มแข็ง  และเราได้ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เขาและการตัดสินใจชี้ขาดในเรื่องต่างๆ”-

(อัลกุรอาน 38/17-20)
นักอธิบายกุรอานกล่าวว่า  อาณาจักรของนบีดาวูดเข้มแข็งมีศักดิ์ศรีและไพร่พลมากมาย  และเราได้ให้เขาเป็นนบี  มีความเข้าใจในกิจการบริหารอย่างถูกต้อง ดำเนินนโยบายด้วยความสุขุมรอบคอบและเด็ดขาด
            ครั้นเมื่อกษัตริย์ฏอลูตวายชนม์ ศาสดาดาวูดก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์สืบสานต่อเจตนารมณ์ของกษัตริย์ ฏอลูตต่อไป……….

            ……..เมื่อนบีดาวูดสู่ย่างเข้าสู่วัยชรา  ผมหงอกขาวโพลน  เขามีความปิติยินดีและปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้นที่พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานบุตรชายอันเป็นที่รักยิ่งของเขาคนหนึ่ง เขาขนานนามลูกรักของเขาว่า สุลัยมาน(ซาโลมอน,โซโลมอน)”

          สุลัยมานเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดเปี่ยมด้วยพรสวรรค์และความสามารถตั้งแต่วัยเยาว์ เป็นเด็กดีเลศ สืบสายเลือดจากผู้เป็นบิดาเต็มตัว

          เมื่อสุลัยมานอายุได้ 12 ปี ก็มีเหตุการณ์ทีน่าอัศจรรย์ยิ่งได้เกิดแก่สุลัยมานเกี่ยวกับพรสวรรค์และความสามารถที่พระเจ้าได้ประทานให้เขา………..”

(นบีของอัลเลาะฮ์ ดาวูด  สุลัยมาน  โดยปริญญา  ประหยัดทรัพท์  .31))
            -และจงรำลึกถึงเรื่องราวของดาวูดและสุลัยมาน  เมื่อเขาทั้งสองได้ตัดสินในเรื่องไร่นา  เมื่อฝูงแกะของกลุ่มชน  ได้หลบเข้าไปกินพืชในเวลากลางคืน  และเราเป็นพยานต่อการตัดสินของพวกเขา”-

          -“ดังนั้น  เราได้ดลใจให้สุลัยมาน  เข้าใจในการตัดสินนั้น  และเราได้ให้ความเฉลียวฉลาด  และวิชาความรู้ที่หลักแหลมแก่แต่ละคน  และเราได้ทำให้ภูเขาและนกแซ่ซ้องสดุดีร่วมกับดาวูด  และเราเป็นผู้กระทำสิ่งเหล่านี้”-

(อัลกุรอาน21/78-79)
                        บรรดานักอธิบายกุรอานกล่าวว่า  ชายสองคนเกิดเรื่องพิพาทกัน  แล้วได้เข้าไปหานบีดาวูดเพื่อให้ตัดสิน  เรื่องก็คือ  ฝูงแกะของชายคนหนึ่งได้เข้าไปในไร่ของชายอีกคนหนึ่งในเวลากลางคืนและได้กัดกินพืชจนหมด  นบีดาวูดได้ตัดสินให้ชายเจ้าของไร่ริบแกะเอาไว้  ชายคนที่สองก็ได้ออกไปหาสุลัยมาน  บังเอิญพบสุลัยมานที่ประตูบ้าน  เขาจึงเล่าเรื่องการตัดสินของนบีดาวูดให้สุลัยมานฟัง  สุลัยมานได้ไปหานบีดาวูดแล้วกล่าวว่า  โอ้นบีของอัลเลาะฮ์ หากท่านตัดสินเป็นอย่างอื่นจากที่ท่านตัดสินไป ก็จะเป็นที่พอใจแก่ทั้งสอง  นบีดาวูดถามว่า  แล้วอะไรเล่าคือการตัดสินที่ดีกว่า  สุลัยมานตอบว่า  ให้เจ้าของฝูงแกะเข้าไปทำไร่  จนกระทั่งพืชผลงอกเงยออกมาอย่างในสภาพเดิม ส่วนเจ้าของไร่ก็เอาฝูงแกะไปเลี้ยง  และเอาประโยชน์จากนม ขน และลูกของมัน  เมื่อพืชงอกเงยอยู่ในสภาพเดิมแล้ว  ก็ให้คืนฝูงแกะแก่เจ้าของไป  และคืนไร่ให้แก่เจ้าของไร่คนเดิม   นบีดาวูดฟังแล้วก็กล่าวว่า  เป็นความคิดที่ถูกต้อง  แล้วนบีดาวูดก็ตัดสินใจแก่ชายทั้งสองตามนั้น  นั่นคือความหมายของโองการของอัลเลาะฮ์ ที่ว่า และเราได้ดลใจให้สุลัยมานเข้าใจการตัดสินนั้น
วันศุกร์ ที่ 15 พฤษภาคม 2552
Posted by musachiza , ผู้อ่าน : 1564 , 02:07:36 น.  
หมวด : ศาสนา

พิมพ์หน้านี้
โหวต 0 คน
เมืองเฮโบรนอันเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของดาวิดในจินตนาการหนึ่งของจิตรกร
เรื่องราวที่แตกต่างกันระหว่างดาวิดและดาวูด

            ฉันขอทำอะไรที่แตกต่างจากที่ทำมาสักนิดนะ  เพราะมีเรื่องราวที่ทีแรกฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่คล้ายกันทั้งสองคัมภีร์  แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว  กลับกลายเป็นคนละเรื่องเลย  จึงอยากจะยกมาให้ไลดูแบบเรื่องต่อเรื่องเลย  ฉันขอพูดถึงดาวิดในพระคัมภีร์เดิมหน่อยคือว่า  กษัตริย์ดาวิดนั้นมีพระชายาหลายองค์ด้วยกันดังนี้
            1ซามูเอล18/21 ดาวิดลุกขึ้นไปพร้อมกับคนของเธอ  ได้ฆ่าคนฟีลิสเตียเสียสองร้อยคน  และดาวิดก็นำหนังปลายองคชาตของคนเหล่านั้นมาถวายแก่พระราชาครบจำนวน  เพื่อเธอจะเป็นบุตรเขยของพระราชา  ซาอูลจึงยก มีคาล พระราชธิดาของพระองค์ให้เป็นภรรยาของดาวิด

            1ซามูเอล25/42 อาบีกายิล รีบลุกขึ้นขี่ลาตัวหนึ่งพร้อมกับสาวใช้ปรนนิบัติเธออีกห้าคน  นางตามผู้สื่อข่าวของดาวิดไป และได้เป็นภรรยาของดาวิด

ดาวิดไปรับนาง อาหิโนอัมชาวยิสราเอลมาด้วย และทั้งสองก็เป็นภรรยาท่าน

ซาอูลได้ทรงยกมีคาลราชธิดาของพระองค์ผู้เป็นภรรยาของดาวิด  ให้แก่ปัลทีบุตร ลาอิช ชาวกัลลิมแล้ว

2ซามูเอล3/3.    …….และ(บุตร)คนที่สามชื่อ อับซาโลมบุตรนางมาอาคาห์ราชธิดาของทัลมัย

4.         ……..(บุตร)คนที่ห้าชื่อ เชฟาทิยาห์บุตรนางอาบีตัล

5.         และคนที่หกชื่อ อิทเรอัม  บุตรนาง เอกลาห์ภรรยาของดาวิด  ราชโอรสเหล่านี้เกิดแก่ดาวิดที่เมืองเฮโบรน

2ซามูเอล5/13   ภายหลังที่พระองค์เสด็จจากเฮโบรน  ดาวิดทรงได้นางสนมและมเหสีจากเยรูซาเล็มเพิ่มขึ้นอีก  และบังเกิดราชโอรสและราชธิดาอีก

แต่เรื่องที่น่าแปลกมากก็เห็นจะเป็นพระชายาที่ชื่อ*นางบัทเชบา*(1พงศ์กษัตริย์1/28 http://www.oknation.net/blog/dragonball/2009/05/12/entry-3
อ่านต่อ

) ซึ่งเป็นพระมารดาของกษัตริย์ซาโลมอนในเวลาต่อมา  เรื่องค่อนข้างยาวแต่ฉันขอยกมาแต่ตอนที่สำคัญดังนี้
2ซามูเอล11/2.  อยู่มาเวลาเย็นวันหนึ่งเมื่อดาวิดลุกขึ้นจากพระแท่น  และดำเนินอยู่บนดาดฟ้าหลังคาพระราชวัง  ทอดพระเนตรจากหลังคาเห็นนางคนหนึ่งอาบน้ำอยู่  หญิงนั้นสวยงามมาก

3.         ดาวิดทรงใช้ให้คนไปถามเรื่องหญิงคนนั้น  คนหนึ่งมากราบทูลว่า หญิงคนนี้ชื่อ *บัทเชบา*  บุตรีของเอลีอัมภรรยาของอุรีอาห์คนฮิตไทต์มิใช่หรือพระยะคะ

4.         ดาวิดทรงใช้ผู้สื่อสารไปรับนางมา  นางก็มาเฝ้าพระองค์  แล้วพระองค์ก็ทรงสมสู่นาง(พอดีนางได้ชำระตัว  ให้สิ้นมลทินของนางแล้ว)แล้วนางก็กลับไปเรือนของตน

5.         ผู้หญิงนั้นตั้งครรภ์  นางจึงใช้คนไปกราบทูลดาวิดว่า  หม่อมฉันตั้งครรภ์แล้ว

14.       ครั้นรุ่งเช้า ดาวิดทรงอักษรถึงโยอาบและทรงฝากไปกับอุรีอาห์

15.       ในลายพระหัตถ์นั้นว่า จงตั้งอุรีอาห์ให้เป็นกองหน้าเข้าสู้รบตรงที่ดุเดือดที่สุดแล้วล่าทัพกลับเสียเพื่อให้เขาถูกโจมตีให้ตาย

16.       อยู่มาเมื่อโยอาบกำลังเฝ้าล้อมเมืองอยู่  ท่านจึงกำหนดให้อุรีอาห์  ไปรบตรงที่ที่ท่านทราบว่ามีทหารเข้มแข็งมาก

17.       คนในเมืองก็ออกมาสู้รบกับโยอาบ  มีคนตายบ้างคือข้าราชการบางคนของดาวิดได้ล้มตาย  อุรีอาห์คนฮิตไทต์ก็ตายด้วย

26.       เมื่อภรรยาของอุรีอาห์ทราบข่าวว่า อุรีอาห์สามีของตนสิ้นชีวิตแล้วนางก็คร่ำครวญด้วยเรื่องสามีของนาง

27.       เมื่อสิ้นการไว้ทุกข์แล้วดาวิดก็ส่งคนไปให้พานางมาที่พระราชวัง  และนางก็ได้เป็นมเหสีของพระองค์ประสูตโอรสองค์หนึ่งให้พระองค์ แต่สิ่งซึ่งดาวิดทรงกระทำนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า

……………………………………

            เหตุที่ฉันไม่คิดจะยกเรื่องนี้มาไว้ตรงนี้ก็เพราะว่าทีแรกฉันเห็นว่าคงไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันจะเล่าเท่าใดนัก แต่เรื่องที่ฉันจะยกมาประกอบต่อไปนี้เป็นผลที่ทำให้ฉันต้องเท้าความถึงเรื่องพระชายาของกษัตริย์ดาวิดตามพระคัมภีร์เดิม
นาธันต่อว่าดาวิด

2ซามูเอล12/1   พระเจ้าทรงใช้ให้นาธันไปหาดาวิด  นาธันก็ไปเข้าเฝ้าและกราบทูลพระองค์ว่า ในเมืองหนึ่งมีชายสองคน  คนหนึ่งมั่งมี อีกคนหนึ่งยากจน

คนมั่งมีนั้นมีแพะแกะและโคเป็นอันมาก

แต่คนยากจนนั้นไม่มีอะไรเลย  เว้นแต่แกะตัวเมียตัวเดียวที่ซื้อเขามา  ซึ่งเขาเลี้ยงไว้ และอยู่กับเขา มันได้เติดโตขึ้นพร้อมกับบุตรของเขากินอาหารร่วมและดื่มน้ำถ้วยเดียวกับเขา นอนในอกของเขา และเป็นเหมือนบุตรสาวของเขา

ฝ่ายคนมั่งมีนั้นมีแขกมาเยี่ยม  เขาเสียดายทีจะเอาแพะแกะหรือโคของตนมาทำอาหารเลี้ยงคนที่มาเยี่ยมนั้น  จึงเอาแกะตัวเมียของชายคนจนนั้นเตรียมเป็นอาหารให้แก่ชายที่มาเยี่ยมตน      

ดาวิดกริ้วชายคนนั้นมาก  และรับสั่งแก่นาธานว่า  พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ฉันใด  ผู้ชายที่กระทำนั้นจะต้องตาย

และคืนแกะให้สี่เท่าเพราะเขาได้กระทำอย่างนี้  และเพราะว่าเขาไม่มีเมตตาจิต

นาธันจึงทูลว่า ฝ่าพระบาทนั่นแหละคือชายคนนั้น  พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราได้เจิมตั้งเจ้าไว้ให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล  และเราช่วยกู้เจ้าออกมาจากมืของซาอูล

และเราได้มอบวงศ์วานเจ้านายของเจ้าไว้ในมือของเจ้า  และได้มอบภรรยาเจ้านายของเจ้าไว้ในอกของเจ้า  และมอบวงศ์วานอิสราเอลและวงศ์วานยูดาห์ให้แก่เจ้า  ถ้าเท่านี้ยังน้อยไป  เราจะเพิ่มให้อีกเท่านี้

ทำไมเจ้าดูหมิ่นพระวจนะของพระเจ้า  กระทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์  เจ้าได้ฆ่าอุรีอาห์คนฮิตไทต์เสียด้วยดาบ  เอาภรรยาของเขามาเป็นของตน และได้ฆ่าเขาเสียด้วยดาบของคนอัมโมน

13.       ดาวิดจึงรับสั่งกับนาธันว่า เรากระทำบาปต่อพระเจ้าแล้วและนาธันกราบทูลดาวิดว่า พระเจ้าทรงอภัยบาปต่อฝ่าพระบาทแล้ว  ฝ่าพระบาทจะไม่ถึงแก่มรณา

14.       อย่างไรก็ตาม  ฝ่าพระบาทได้เหยียดหยามพระเจ้าอย่างที่สุดด้วยการกระทำครั้งนี้ ราชบุตรที่ประสูตมานั้นจะต้องเสียชีวิต

นั่นเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของกษัตริย์ดาวิด  ซึ่งมุสลิมไม่สามารถจะเชื่อเรื่องเหล่านี้ได้  เพราะดาวูดนั้นอิสลามได้ยกย่องในความดี เป็นนบีที่ทรงคุณธรรมอย่างเปี่ยมล้นดังที่ฉันได้ยกโองการในอัลกุรอานมาให้ไลอ่านแล้ว  ปล่อยให้พระคัมภีร์เดิมเป็นความเชื่อของผู้ที่เขาศรัทธา โดยเราอย่าเอามาเกี่ยวข้องกับความเชื่อของเขาเป็นอันขาด  เราควรเชื่อเท่าที่อัลกุรอานและตามแนวทางที่ท่านนบีอธิบายไว้เท่านั้นอย่าให้มาปะปนกัน  เรามาดูเรื่องการตัดสินความในเรื่องหนึ่งของท่านนบีดาวูด  ที่อัลเลาะฮ์ทรงมีโองการในอัลกุรอาน  ที่ฉันบอกว่าทีแรกนึกว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ที่จริงแล้วเป็นคนละเรื่องเลย
-และเมื่อเรื่องของผู้โต้เถียงได้มาถึงเจ้า(มูฮัมหมัด)บ้างใหม  เมื่อพวกเขาได้ปีนกำแพงไปหาที่มิห์รอบ(ที่ทำการนมัสการของดาวูด)”-

นักอธิบายกุรานกล่าวว่า  เป็นคำถามเรียกความสนใจ  คือเจ้ารู้เรื่องของผู้ขัดแย้งกันสองฝ่าย ที่ปีนกำแพงเข้ามาหานบีดาวูด ขณะที่ท่านอยู่ในสถานที่ปฏิบัติศาสนากิจ
-เมื่อเขาได้เข้ามาหาดาวูด  เขาตกใจกลัวพวกเขา  พวกเขากล่าวว่า อย่าได้กลัวเลย  เราคือผู้โต้เถียงสองคน  คนหนึ่งในพวกเราได้ล่วงเกินอีกคนหนึ่ง ดังนั้นได้โปรดตัดสินระหว่างพวกเราด้วยความยุติธรรม  และอย่าได้ลำเอียง  และจงชี้แนะเราสู่แนวทางที่เที่ยงตรงเถิด”-

นักอธิบายกุรอานกล่าวว่า  นบีดาวูดตกใจจากการกระทำของพวกเขา  เพราะได้เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติ  และมิได้เข้ามาทางประตูในเวลาที่กำหนดไว้
-แท้จริง  นี่คือพี่ชายของฉันเขามีแกะตัวเมีย 99 ตัว และฉันมีแกะตัวเมียตัวเดียว แล้วเขาก็ยังพูดว่า เอามันมาให้ฉันซิ  และเขาได้ข่มขู่ฉันในคำพูด”-

-“เขา(ดาวูด)กล่าวว่า แน่นอนเขาอธรรมต่อท่าน  ในการนำแกะของท่านไปรวมกับของเขา และแท้จริง ส่วนมากของผู้ที่มีหุ้นส่วนร่วมกันบางคนในพวกเขามักละเมิดสิทธิของอีกบางคน  เว้นแต่บรรดาผู้ศรัทธา และประกอบความดีทั้งหลาย และพวกเขาเช่นนี้มีน้อยและดาวูดรู้สึกว่าเราได้ทดสอบเขา  ดังนั้นเขาจึงขออภัยต่อพระผู้อภิบาลของเขา  และเขาได้ก้มลงคารวะและทบทวนความผิดด้วยความเสียใจ”-

นักอธิบายกุรอานกล่าวว่า  นบีดาวูดได้ตัดสินทันที  โดยมิได้ฟังคำชี้แจงของอีกฝ่ายหนึ่ง  หลังจากที่ได้ฟังคำตัดสินของนบีดาวูดแล้ว มะลาอิกะฮ์(ทูตสวรรค์)สองท่านก็หายวับไปกับตาของท่านนบีดาวูด  นบีดาวูดจึงรู้สึกว่าพระเจ้าได้ทดสอบเขา  มันเป็นความผิดพลาดที่เขามิได้ฟังคำชี้แจงของอีกฝ่ายหนึ่ง  ทันทีนั้นท่านก็ก้มลงสุญูด(กราบ)ต่อพระเจ้าของเขาและร้องให้
-ดังนั้น เราได้ให้อภัยเขาในเรื่องนั้น และแท้จริง สำหรับเขานั้นย่อมอยู่ใกล้กับเรา  และมีทางกลับที่ดียิ่ง(ในปรโลก)”-

-“โอ้ดาวูดเอ๋ย  เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้  ดังนั้น  เจ้าจงตัดสินคดีต่างๆ ระหว่างมนุษย์ด้วยความยุติธรรม  และอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำมันจะทำให้เจ้าหลงไปจากทางของอัลเลาะฮ์  แท้จริงบรรดาผู้ที่หลงไปจากทางของอัลเลาะฮ์นั้น  สำหรับเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาหัส  เนื่องด้วยพวกเขาลืมวันแห่งการชำระสอบสวน”-

(อัลกุรอาน38/21-26)
ท่านนบีดาวูดตามหลักความเชื่อของอิสลามนั้น ท่านเป็นแบบอย่างของการเป็นนบีเป็นกษัตริย์และเป็นนักปกครองที่เที่ยงธรรม  เป็นนักรบที่กล้าหาญมีจิตใจที่อ่อนน้อมต่อพระเจ้าเสมอ ท่านเป็นตุลาการที่รอบคอบทีอัลเลาะฮ์ได้ทรงเลือกให้เป็นผู้นำวงศ์วานอิสรออีลในยุคของท่าน  เราจะต้องเชื่อในความบริสุทธิ์ของท่านตามที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงยืนยันไว้  ตามที่คัมภีร์อัลกุรอานได้ระบุไว้  ซึ่งเปรียบเสมือนตราประทับยืนยันคุณความดีของท่านว่ามิได้ด่างพร้อย  และมีความสมบูรณ์แบบในการเป็นนบีของอัลเลาะฮ็อย่างครบถ้วน  ตลอดรัชสมัยของพระองค์………อามีน
ขอบคุณพระเจ้าที่ได้ทรงประทานคัมภีร์ที่แยกแยะความจริงและความเท็จออกจากกัน

Abu Abbus  bin  Humzah
ดาบทั้ง 9 ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม



ดาบ  อัลบัตตาร   ซึ่งเป็นอาบที่ท่านนบีมุฮัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยึดได้มาจาก อบูก๊อยนุกออ์ (ชาวยิวยัษริบที่อยู่ในนครมะดีนะฮ์)  ดาบนี้ถูกเรียกเช่นกันว่า  ซัยฟุลอัมบิยาอ์  ซึ่งถูกเขียนบทดาบว่า  "ดาวูด , สุลัยมาน , มูซา , ฮารูน , ยะซะอ์ , ซะการียา , ยะห์ยา , อีซา , มุฮัมมัด  (อะลัยฮิมุสซ่อลาตุวัสสลาม) ดาบนี้ท่านนบีดาวูดได้ทำขึ้นมาเพื่อสังหารญาลูต  ดาบนี้มีความยาว 101 ซ.ม. ปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่  พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

ดาบ  อัล-มะฮ์ษูร  หรือรู้จักในนาม  อัล-มะษูร อัลฟัจญร์  ซึ่งท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้รับมรดกมาจากบิดาของท่านที่อยู่มักกะฮ์ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นนบี  ท่านนบี ซ๊อลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ทำการอพยพด้วยดาบดังกล่าวพร้อมกับท่านอบูบักร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  จากมักกะฮ์ในยังนครมะดีนะฮ์  ขนาดของดาบ 99 ซ.ม.  ตรงที่จับของดาบ  เขียนว่า  อับดุลเลาะฮ์ บิน อับดุลมุฏฏอลิบ (บิดาของท่านนบี) ปัจจุบัน  ดาบได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี

ดาบ  อัล-หัตฟ์  ซึ่งได้นบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยึดได้จากเผ่าอบู ก๊อยนุกออ์ (ชาวยิวยัษริบที่อยู่ในนครมะดีนะฮ์) ดาบเล่มนี้ได้สร้างขึ้นโดยสองมืออันมีเกียรติของท่านนบี ดาวูด อะลัยฮิสลาม  ซึ่งอัลเลาะฮ์ทรงให้เหล็กอ่อนนวลแก่ท่านนบีดาวูด  ดาบที่ท่านนบีดาวูดทำขึ้นนี้จะคล้ายคลึงกับดาบ อัลบัตตาร  แต่มันจะใหญ่กว่า  ดาบนี้ได้รับสืบทอดอยู่ในการครอบครองของชาวยิวเผ่าอัลลาวีย์  ซึ่งพวกเขามีได้เก็บรักษาศาตราวุธของบรรพบุรุษชาวบนีอิสรออีลเอาไว้  จนกระทั่วท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยึดมาได้มาเป็นทรัพย์สงคราม  ความยาวของดาบ 112 ซ.ม. ความกว้าง 8 ซ.ม.  ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

ดาบ ซุลก๊อฟฟาร  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยึดได้จากสงครามบะดัร  ตามที่ได้ศึกษาทราบว่า  ดาบนี้ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้มอบให้แก่ท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  และท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ได้กลับมาจากสมรภูมิอุหุดโดยแบกดาบซุลก๊อฟฟาร  มือทั้งสองจนถึงบ่าทั้งสองข้างของท่านอะลีโชกไปด้วยเลือดของพวกกุฟฟาร  ปัจจุบัน  ดาบเล่มนี้  ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

ดาบ อัรร๊อซซูบ  คือหนึ่งจากดาบทั้ง 9 ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ที่เคยอยู่ในครอบครัวของท่านนบี  บริเวนวงกลมที่เป็นทองจะเขียนว่า  ญะฟัร อัศศอดิก (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ)  ขนาดความยาว 140 ซ.ม.  ปัจจุบัน  ดาบเล่มนี้  ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

ดาบ อัล-มิคซัม   มีรายงานบ่งชี้ว่า  ดาบเล่มนี้ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้ให้กับท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  และบรรดาลูกหลานของท่านอะลี  ก็ได้รับมรดกสืบทอดกันมา  บางรายงานบอกว่า  ดาบเล่มนี้ท่านอะลี ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ได้ยึดได้จากถ่ำหนึ่งจากเมืองชาม  ดาบมีขนาดความยาว 97 ซ.ม.  ดาบจะถูกแกะสลักว่า ซันนุดดีน อัลอาบิดีน (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ)  ดาบเล่มนี้  ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

ดาบ  อัล-ก่อฏีบ  สภาพของดาบมีจะด้ามที่บาง  บนดาบจะเขียนด้วยเงินว่า  ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ มุฮัมมัดร่อซูลุลเลาะฮ์ - มุฮัมมัด บิน อับดิลลาฮ์ บิน อับดุลมุฏฏอลิบ   ขนาดความยาวของดาบ 100 ซ.ม.  ดาบเล่มนี้  ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

ดาบ อัลอัฏบ์  หมายความว่า  ดาบที่คมกริบ  ก่อนจากสมรภูมิอุหุด  ซอฮาบะฮ์  นามว่า สะอัด บิน อุบาดะฮ์ อัลอันซอรีย์ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ) ได้มอบเป็นของกำนัลให้แก่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  และท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้มอบให้แก่  อบู ดุญานะฮ์ อัลอันซอรีย์  (ร่อฏิยัลลัลลอฮุอันฮุ)  ดาบเล่มนี้ถูกเก็บรักษาไว้ใน มัสยิด อัลหุซัยน์ บิน อะลี อิบนุ อบีฏอเล็บ  ที่กรุงไคโร

ดาบ  อัลก๊อลอีย์   ดาบนี้เป็นหนึ่งจากดาบที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ยึดได้มาจาก อบูก๊อยนุกออ์ (ชาวยิวยัษริบที่อยู่ในนครมะดีนะฮ์)  ขนาดของดาบมีความยาว 100 ซ.ม. ดาบเล่มนี้  ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์ตูบกาบีย์  กรุงอิสตัมบูล  ตรุกี 

นบีดาวูด(เดวิด)


         หลังจากสัมยของนบีมูซาแล้ว  พวกอิสรออีลต้องเดินทางระหกเหินและไม่สามารถรวมตัวเป็นชาติทีเข้มแข็งได้  ดังนั้น   ชาวอิสรออีลจึงต้องถูกชาวอื่นรุกรานและกดขี่ข่มเหงมาตลอด  ในสมัยนั้น ดาวูดเป็นเด็กคนหนึ่งที่เกิดในเชื้อสายของอิสรออีลและเป็นที่มีความกล้าหาญมาก   นบีซามูเอลจึงได้แต่งตั้งชาวอิสรออีลคนหนึ่งซื่อฏอลูตขึ้นเป็นกษัตร์ย์และบอกพวกเขาว่า  อัลลอฮได้ทรงแต่งตั้งฏอลูตให้เป็นกษัตริย์สำหรับพวกแล้ว   นบีซามูเอลจึงได้กล่าวว่า  อัลลอฮได้ทรงประทานพลังความรู้และร่างกายแก่เขาอย่างมากมายมหาศาลและอัลลอฮทนงมีอำนาจที่จะทรงประทานอาณาจักรของพระองค์แก่ใครก็ได้  ที่พระองค์ทรงประสงค์  เพราะอัลลอฮเป็นผู้ทรงรอบรู้  พวกอิสรออีลจึงได้เฝ้ารอและก็ได้พบหีบใบนั้นจริงๆ ชาวอิสรออีลจึงมีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าไม่ได้มอดที้งพวกเขาขณะที่อกกเดินทางไปกับกองทหารเพื่อต่อสู้กับพวกฟิลิสตินที่มารุกราน ฏอลูตต้องการจะดูว่าคนของเขาศรัทธาในอัลลอฮและเชือฟ้งแค่ใหน   อัลลอฮกำลังจะทดลองพวกเจ้าด้วลำน้ำสายหนึ่ง ใครก็ตามที่ดื่มน้ำจากลำสายนี้ ขาคนนั้นก็ไม่ใช้พวกของฉัน  ถึงแม้จะบอกว่านั้นเป็นการทดสอบจากอัลลอฮ  แต่พวกอิสรออีลส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อและหยุดดื่มน้ำกัน  มีเพียงไม่กีคนเท่านั้นที่เชื่อฟ้งฏอลูตและไม่ได้ดื่มน้ำ ดังนั้น  ฏอลูตจึงได้คัดเอาคนที่เชื่อฟังร่วมทางไปกับเขา   แต่ผู้ศรัทธาในอัลอฮจำนวนหนึ่งได้กล่าวว่า  มีบ่อยไปที่คนจำนวนน้อยเอาชนะคนจำนวนมากได้ด้วยอำนาจของอัลลอฮ เพราะอัลลอฮจะทรงอยู่กับผู้อดทน   เมื่อกองทัพของฏอลูตเผชิญหน้ากับกองทัพชาวฟิลิสติน  ซึ่งนำโดยญาลูต(หรือโกไลแอธ)  พวกอิสรออีลจึงได้วิงวอนต่ออัลลอฮว่า  ช้าพระผู้อภิบาลของเรา  ขอพระองค์ได้ทรงประทานความอดทนแก่ราและทรงปฏิเสธศรัทธาด้วเถิด  ถ้าพวกเก่งจริงก็ส่งคนมีฝีมือมาต่อสู้กันตัวต่อตัว  แต่ในเวลานั้นดาวูดได้อยู่ในที่นั้นด้วย  เขาจึงได้ขออนุญาตออกไปต่อสู้ญาลูต   หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน  ดาวูดก็สามารถสังหารญาลูตได้ในที่สุด  ดาวูดจึงได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาวอิสรออีล  ฏอลูตได้ยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขาและหลังจากที่ฏอลูตเสียชีวิตแล้ว  นบีดาวูดมีลูกชายคนหนึ่งชื่อสุลัยมาซึ่งต่มาได้เป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขาและยังเป็นนบีคนสำคัญคนหนึ่ง  ขณะที่นบีดาวูดเป็นกษัริตย์ปกครองชาวอิสรออีลอยู่  วันหนึ่ง
ชาวอิสรออีลสองคนได้มาขอให้ท่านตัดสินกรณีขัดแย้งระหว่างเขาทั้งสอง  นบีดาวูดได้ตัดสินให้เจ้าของแพะมอบแพะทั้งหมดที่เข้ากินต้นไม้ใบหญ้าให้แก่เจ้าของที่ดินที่ได้รับความเสียหาย  ถึงต้นไม้ใบหญ้าจะเสียหาย  แต่ที่ดินยังคงอยู่ ดังนั้น  จึงไม่ควรให้เจ้าของที่ดินยึดแพะทั้งหมดเอาไว้เลย  เมื่อต้นไม้ใบหญ้าเติบโตใหม่แล้ว  เจ้าของที่ก็ควรจะคืนแพะให้แก่เจ้าของเดิมไป   นบีดาวูดเห็นด้วยกับคำแนะนำของสุลัยมานเพราะเป็นความยุติธรรมและท่านได้ตัดสินไปตามนั้น    นอกจากนั้นแล้ว  คัมภีร์กุรอานยังได้บอกให้รารู้ว้อัลลอฮได้ทรงสอนท่านนบีดาวูดให้รู้จักการนำเอาเหล็กมาทำเป็นเครืองใช้ต่างๆ


         หลังจากสัมยของนบีมูซาแล้ว  พวกอิสรออีลต้องเดินทางระหกเหินและไม่สามารถรวมตัวเป็นชาติทีเข้มแข็งได้  ดังนั้น   ชาวอิสรออีลจึงต้องถูกชาวอื่นรุกรานและกดขี่ข่มเหงมาตลอด  ในสมัยนั้น ดาวูดเป็นเด็กคนหนึ่งที่เกิดในเชื้อสายของอิสรออีลและเป็นที่มีความกล้าหาญมาก   นบีซามูเอลจึงได้แต่งตั้งชาวอิสรออีลคนหนึ่งซื่อฏอลูตขึ้นเป็นกษัตร์ย์และบอกพวกเขาว่า  อัลลอฮได้ทรงแต่งตั้งฏอลูตให้เป็นกษัตริย์สำหรับพวกแล้ว   นบีซามูเอลจึงได้กล่าวว่า  อัลลอฮได้ทรงประทานพลังความรู้และร่างกายแก่เขาอย่างมากมายมหาศาลและอัลลอฮทนงมีอำนาจที่จะทรงประทานอาณาจักรของพระองค์แก่ใครก็ได้  ที่พระองค์ทรงประสงค์  เพราะอัลลอฮเป็นผู้ทรงรอบรู้  พวกอิสรออีลจึงได้เฝ้ารอและก็ได้พบหีบใบนั้นจริงๆ ชาวอิสรออีลจึงมีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าไม่ได้มอดที้งพวกเขาขณะที่อกกเดินทางไปกับกองทหารเพื่อต่อสู้กับพวกฟิลิสตินที่มารุกราน ฏอลูตต้องการจะดูว่าคนของเขาศรัทธาในอัลลอฮและเชือฟ้งแค่ใหน   อัลลอฮกำลังจะทดลองพวกเจ้าด้วลำน้ำสายหนึ่ง ใครก็ตามที่ดื่มน้ำจากลำสายนี้ ขาคนนั้นก็ไม่ใช้พวกของฉัน  ถึงแม้จะบอกว่านั้นเป็นการทดสอบจากอัลลอฮ  แต่พวกอิสรออีลส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อและหยุดดื่มน้ำกัน  มีเพียงไม่กีคนเท่านั้นที่เชื่อฟ้งฏอลูตและไม่ได้ดื่มน้ำ ดังนั้น  ฏอลูตจึงได้คัดเอาคนที่เชื่อฟังร่วมทางไปกับเขา   แต่ผู้ศรัทธาในอัลอฮจำนวนหนึ่งได้กล่าวว่า  มีบ่อยไปที่คนจำนวนน้อยเอาชนะคนจำนวนมากได้ด้วยอำนาจของอัลลอฮ เพราะอัลลอฮจะทรงอยู่กับผู้อดทน   เมื่อกองทัพของฏอลูตเผชิญหน้ากับกองทัพชาวฟิลิสติน  ซึ่งนำโดยญาลูต(หรือโกไลแอธ)  พวกอิสรออีลจึงได้วิงวอนต่ออัลลอฮว่า  ช้าพระผู้อภิบาลของเรา  ขอพระองค์ได้ทรงประทานความอดทนแก่ราและทรงปฏิเสธศรัทธาด้วเถิด  ถ้าพวกเก่งจริงก็ส่งคนมีฝีมือมาต่อสู้กันตัวต่อตัว  แต่ในเวลานั้นดาวูดได้อยู่ในที่นั้นด้วย  เขาจึงได้ขออนุญาตออกไปต่อสู้ญาลูต   หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน  ดาวูดก็สามารถสังหารญาลูตได้ในที่สุด  ดาวูดจึงได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาวอิสรออีล  ฏอลูตได้ยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขาและหลังจากที่ฏอลูตเสียชีวิตแล้ว  นบีดาวูดมีลูกชายคนหนึ่งชื่อสุลัยมาซึ่งต่มาได้เป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขาและยังเป็นนบีคนสำคัญคนหนึ่ง  ขณะที่นบีดาวูดเป็นกษัริตย์ปกครองชาวอิสรออีลอยู่  วันหนึ่ง
ชาวอิสรออีลสองคนได้มาขอให้ท่านตัดสินกรณีขัดแย้งระหว่างเขาทั้งสอง  นบีดาวูดได้ตัดสินให้เจ้าของแพะมอบแพะทั้งหมดที่เข้ากินต้นไม้ใบหญ้าให้แก่เจ้าของที่ดินที่ได้รับความเสียหาย  ถึงต้นไม้ใบหญ้าจะเสียหาย  แต่ที่ดินยังคงอยู่ ดังนั้น  จึงไม่ควรให้เจ้าของที่ดินยึดแพะทั้งหมดเอาไว้เลย  เมื่อต้นไม้ใบหญ้าเติบโตใหม่แล้ว  เจ้าของที่ก็ควรจะคืนแพะให้แก่เจ้าของเดิมไป   นบีดาวูดเห็นด้วยกับคำแนะนำของสุลัยมานเพราะเป็นความยุติธรรมและท่านได้ตัดสินไปตามนั้น    นอกจากนั้นแล้ว  คัมภีร์กุรอานยังได้บอกให้รารู้ว้อัลลอฮได้ทรงสอนท่านนบีดาวูดให้รู้จักการนำเอาเหล็กมาทำเป็นเครืองใช้ต่างๆ


         หลังจากสัมยของนบีมูซาแล้ว  พวกอิสรออีลต้องเดินทางระหกเหินและไม่สามารถรวมตัวเป็นชาติทีเข้มแข็งได้  ดังนั้น   ชาวอิสรออีลจึงต้องถูกชาวอื่นรุกรานและกดขี่ข่มเหงมาตลอด  ในสมัยนั้น ดาวูดเป็นเด็กคนหนึ่งที่เกิดในเชื้อสายของอิสรออีลและเป็นที่มีความกล้าหาญมาก   นบีซามูเอลจึงได้แต่งตั้งชาวอิสรออีลคนหนึ่งซื่อฏอลูตขึ้นเป็นกษัตร์ย์และบอกพวกเขาว่า  อัลลอฮได้ทรงแต่งตั้งฏอลูตให้เป็นกษัตริย์สำหรับพวกแล้ว   นบีซามูเอลจึงได้กล่าวว่า  อัลลอฮได้ทรงประทานพลังความรู้และร่างกายแก่เขาอย่างมากมายมหาศาลและอัลลอฮทนงมีอำนาจที่จะทรงประทานอาณาจักรของพระองค์แก่ใครก็ได้  ที่พระองค์ทรงประสงค์  เพราะอัลลอฮเป็นผู้ทรงรอบรู้  พวกอิสรออีลจึงได้เฝ้ารอและก็ได้พบหีบใบนั้นจริงๆ ชาวอิสรออีลจึงมีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าไม่ได้มอดที้งพวกเขาขณะที่อกกเดินทางไปกับกองทหารเพื่อต่อสู้กับพวกฟิลิสตินที่มารุกราน ฏอลูตต้องการจะดูว่าคนของเขาศรัทธาในอัลลอฮและเชือฟ้งแค่ใหน   อัลลอฮกำลังจะทดลองพวกเจ้าด้วลำน้ำสายหนึ่ง ใครก็ตามที่ดื่มน้ำจากลำสายนี้ ขาคนนั้นก็ไม่ใช้พวกของฉัน  ถึงแม้จะบอกว่านั้นเป็นการทดสอบจากอัลลอฮ  แต่พวกอิสรออีลส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อและหยุดดื่มน้ำกัน  มีเพียงไม่กีคนเท่านั้นที่เชื่อฟ้งฏอลูตและไม่ได้ดื่มน้ำ ดังนั้น  ฏอลูตจึงได้คัดเอาคนที่เชื่อฟังร่วมทางไปกับเขา   แต่ผู้ศรัทธาในอัลอฮจำนวนหนึ่งได้กล่าวว่า  มีบ่อยไปที่คนจำนวนน้อยเอาชนะคนจำนวนมากได้ด้วยอำนาจของอัลลอฮ เพราะอัลลอฮจะทรงอยู่กับผู้อดทน   เมื่อกองทัพของฏอลูตเผชิญหน้ากับกองทัพชาวฟิลิสติน  ซึ่งนำโดยญาลูต(หรือโกไลแอธ)  พวกอิสรออีลจึงได้วิงวอนต่ออัลลอฮว่า  ช้าพระผู้อภิบาลของเรา  ขอพระองค์ได้ทรงประทานความอดทนแก่ราและทรงปฏิเสธศรัทธาด้วเถิด  ถ้าพวกเก่งจริงก็ส่งคนมีฝีมือมาต่อสู้กันตัวต่อตัว  แต่ในเวลานั้นดาวูดได้อยู่ในที่นั้นด้วย  เขาจึงได้ขออนุญาตออกไปต่อสู้ญาลูต   หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน  ดาวูดก็สามารถสังหารญาลูตได้ในที่สุด  ดาวูดจึงได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาวอิสรออีล  ฏอลูตได้ยกลูกสาวให้แต่งงานกับเขาและหลังจากที่ฏอลูตเสียชีวิตแล้ว  นบีดาวูดมีลูกชายคนหนึ่งชื่อสุลัยมาซึ่งต่มาได้เป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขาและยังเป็นนบีคนสำคัญคนหนึ่ง  ขณะที่นบีดาวูดเป็นกษัริตย์ปกครองชาวอิสรออีลอยู่  วันหนึ่ง
ชาวอิสรออีลสองคนได้มาขอให้ท่านตัดสินกรณีขัดแย้งระหว่างเขาทั้งสอง  นบีดาวูดได้ตัดสินให้เจ้าของแพะมอบแพะทั้งหมดที่เข้ากินต้นไม้ใบหญ้าให้แก่เจ้าของที่ดินที่ได้รับความเสียหาย  ถึงต้นไม้ใบหญ้าจะเสียหาย  แต่ที่ดินยังคงอยู่ ดังนั้น  จึงไม่ควรให้เจ้าของที่ดินยึดแพะทั้งหมดเอาไว้เลย  เมื่อต้นไม้ใบหญ้าเติบโตใหม่แล้ว  เจ้าของที่ก็ควรจะคืนแพะให้แก่เจ้าของเดิมไป   นบีดาวูดเห็นด้วยกับคำแนะนำของสุลัยมานเพราะเป็นความยุติธรรมและท่านได้ตัดสินไปตามนั้น    นอกจากนั้นแล้ว  คัมภีร์กุรอานยังได้บอกให้รารู้ว้อัลลอฮได้ทรงสอนท่านนบีดาวูดให้รู้จักการนำเอาเหล็กมาทำเป็นเครืองใช้ต่างๆ